Coin operated Washing Machines

เรื่องน่ารู้ก่อนเปิดร้านซักผ้าหยอดเหรียญ

ธุรกิจร้านสะดวกซัก หรือร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามักเห็นผู้คนมาต่อคิวใช้บริการซักอบผ้าตามหอพัก อาพร์ทเม้นท์ คอนโดมีเนียม หรือตามย่านชุมชนต่าง ๆ จนหลายคนเกิดไอเดียอยากลองทำธุรกิจเปิดร้านสะดวกซักกันดูบ้าง วันนี้ทาง V Wash Thailand มีเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจนี้มาฝากกันอย่างครบถ้วนเลยครับ ไปเริ่มกันเลย!

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไร?

การทำธุรกิจสะดวกซักมีแนวทางเริ่มต้นด้วยกันอยู่ 2 แนวทาง คือ

  1. เริ่มต้นเองจากศูนย์ โดยการหาทำเลเปิดร้าน ลงทุนซื้อเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมหยอดเหรียญ วางระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า ฯลฯ
  2. การซื้อเฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก เพียงแค่หาทำเลดี ๆ ที่เหลือทางเฟรนไชส์ก็จะจัดการทั้งหมดให้คุณ

หากเปิดร้านซักผ้าหยอดเหรียญเอง ต้องลงทุนอะไรบ้าง?

1. ค่าเครื่องซักอบผ้า

เครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับให้บริการในร้านสะดวกซักนั้น ควรเป็นเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม หรือเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ที่มีความจุมากกว่า 10 กิโลกรัมขึ้นไป เนื่องจากเป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน จึงทนทานมากกว่า อีกทั้งยังสามารถซักผ้าชิ้นใหญ่ ๆ อย่างผ้านวม, ผ้าห่ม ได้อีกด้วย ซึ่งราคาขายเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะอยู่ที่ประมาณเครื่องละ 20,000-25,000 บาท

Tip: รู้หรือไม่? หากเลือกใช้เครื่องซักอบผ้ามือสองจะสร้างความคุ้มค่าให้กับธุรกิจได้มากกว่า คลิกอ่านเพิ่มเติม

2. ค่ากล่องหยอดเหรียญ

กล่องหยอดเหรียญเป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมาก ควรเลือกแบบที่มีระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนา จะช่วยป้องกันการโจรกรรมของมิจฉาชีพได้ โดยระบบกล่องหยอดเหรียญมีหลายรุ่น อาจมีทั้งรุ่นทั้งรองรับเฉพาะเหรียญ 10, รุ่นที่รองรับเหรียญ 5 และเหรียญ 10 ไปจนถึงรุ่นที่รองรับธนบัติได้ ซึ่งทั่วไปแล้วราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 -2,500 บาท ขึ้นไป

3. ค่าเช่าที่

ทำเลที่ตั้งสำหรับเปิดร้านสะดวกซักควรตั้งอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ย่านที่พักอาศัย พอหัก โรงงาน หรือโรงแรมโฮสเทล ฯลฯ ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้คนพลุกพล่านผ่านไปมาจำนวนมาก แน่นอนว่าค่าเช่าพื้นที่ในย่านนี้อาจจะแพงสักหน่อย แต่จะคืนทุนสร้างกำไรให้คุณในระยาวได้รวดเร็วยิ่งกว่า

4. ค่าวางระบบสาธารณูปโภค

การติดตั้งวางระบบน้ำประปา ท่อน้ำทิ้ง การเดินไฟฟ้าในร้าน เป็นส่วนสำคัญ ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งร้านของคุณ เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและลูกค้าที่มาใช้บริการ อีกทั้งหากเกิดปัญหาขัดข้องจะได้เข้าแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

5. ค่าน้ำ ค่าไฟ

ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดร้านซักผ้าหยอดเหรียญ โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก คุณอาจจะต้องมีทุนสำรองสำหรับค่าน้ำ ค่าไฟส่วนหนึ่ง เพราะอาจเป็นช่วงเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาไม่มากนัก

6. ค่าซ่อมบำรุง

การตรวจสภาพและซ่อมบำรุงเครื่องซักอบผ้า รวมทั้งระบบน้ำ – ไฟฟ้าในร้าน ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะเครื่องซักอบผ้าที่มีการใช้งานอย่างหนัก ควรใช้บริการรับทำ PM เครื่องร้านสะดวกซักหยอดเหรียญอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง

7. ค่าอินเทอร์เน็ต (WiFi)

จากการสำรวจตลาด พบว่า มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่มาใช้บริการ และจะนั่งรอในร้านจนกว่าผ้าจะเสร็จ หากร้านของคุณมีสัญญาณ WiFi รวมถึงโต๊ะ เก้าอี้นั่งรอ พัดลม ไว้พร้อมก็จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า อีกทั้งยังดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

8. ค่าระบบกล้องวงจรปิด

ในยุคสมัยนี้ระบบกล้องวงจรปิดมีความสำคัญเป็นอย่างมาก นับเป็นตัวช่วยที่ดีของเจ้าของธุรกิจ นอกจากช่วยรักษาความปลอดภัยแบบเรีบลไทม์แล้ว คุณยังสามารถศึกษาข้อมูลทางการตลาดจากกล้องที่บันทึกไว้ได้อีกด้วย

เปิดร้านสะดวกซักแล้ว จะคืนกำไรเมื่อไร?

คำถามนี้คงเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนหลายท่านต้องการทราบ V Wash Thailand ขออธิบายวิธีประเมิน จากตัวอย่างด้านล่างนี้

หากมีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 10 คน ซักผ้าสัปดาห์ละครั้ง ปริมาณการซักเท่ากับ 10 ตะกร้า/สัปดาห์ กรณีตั้งราคาค่าบริการไว้ที่ครั้งละ 20 บาท จะมีรายได้อยู่ที่ 10×20 = 200 บาท/สัปดาห์ หรือประมาณ 28.5 บาท/วัน (ยังไม่หักต้นทุน) และเมื่อรวมกับต้นทุนในส่วนค่าน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญขนาด 8 กิโลกรัม จะใช้น้ำประมาณ 100 ลิตร/ครั้ง หรือคิดเป็น 0.1 หน่วย หากค่าน้ำหน่วยละ 20 บาท ต้นทุนค่าน้ำต่อการซัก 1 ครั้งจะเท่ากับ 0.1 x 20 = 2 บาท

ค่าไฟ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญขนาด 8 กิโลกรัม ใช้เวลาซักประมาณ 1 ชั่วโมง จะกินไฟโดยเฉลี่ย 0.3 หน่วย หากค่าไฟหน่วยละ 4 บาท นั่นหมายความว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อการซัก 1 ครั้งจะเท่ากับ 0.3 x 4 = 1.2 บาท รวมเป็นเงินต้นทุน ค่าน้ำ+ค่าไฟ = 2 + 1.2 = 3.2 บาท/ครั้ง

หากคุณตั้งราคาซักครั้งละ 20 บาท หักต้นทุน (ค่าน้ำ/ค่าไฟ) 3.2 บาท จะเหลือรายได้ 16.8 บาท/ครั้ง ลูกค้าทั้งหมด 10 ตะกร้า/สัปดาห์ จะมีรายได้หักค่าใช้จ่าย = 10 x 16.8 = 168 บาท/สัปดาห์ หรือ 24 บาท/วัน หรือคิดเป็น 24 x 365 = 8,760 บาท/ปี

ถ้าราคาเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ขนาด 8 กิโลกรัม เครื่องละ 11,700 บาท ค่าอุปกรณ์จิปาถะในการติดตั้งรวมทั้งหมด 500 บาท

รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น = 12,200 บาท เมื่อรวมกับรายได้ขั้นต่ำจากลูกค้า 10 คน = 8,760 บาท/ปี จะใช้ระยะเวลาในการคืนทุน = 12,200 / 8,760 = 1.4 ปี หรือ 16.8 เดือน อย่างไรก็ตามนี่เป็นการคำนวณโดยคร่าว ๆจากจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการแค่เพียง 10 คนเท่านั้น ในกรณีร้านตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก ผู้ใช้บริการมากขึ้นก็จะยิ่งคืนทุนได้เร็วขึ้น